“นฤมล” รมว.เกษตรฯ หารือเอกอัครราชทูตจีน กระชับความสัมพันธ์ด้านเกษตร ขยายตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์จากผึ้ง เพิ่มโอกาสการค้าภาคปศุสัตว์ไทย เตรียมบินร่วมประชุมที่นครคุนหมิง 19-22 พ.ย.นี้
วันที่ 31 ตุลาคม 2567 นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วย นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้หารือร่วมกับ นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย (H.E. Mr. Han Zhiqiang) โดยมี นายถาวร ทันใจ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เพื่อหารือถึงความร่วมมือด้านการเกษตร และสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ที่จะครบรอบ 50 ปี ในปี 2568 นางนฤมล กล่าวต่อไปว่า การหารือวันนี้ทั้ง 2 ฝ่าย ได้มีการแลกเปลี่ยนนโยบายที่สำคัญระหว่างกัน โดยฝ่ายไทยมีนโยบายในการขับเคลื่อนภาคการเกษตรที่มุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร ให้มีความอยู่ดีกินดี มีรายได้เพิ่มขึ้น พัฒนาการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมาช่วยในการผลิตสินค้าเกษตร ส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรมูลค่าสูง ขยายตลาดสินค้าเกษตรที่มีอยู่เดิมและเพิ่มตลาดใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ โดยใช้แนวทาง ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้
ทั้งนี้ ยังได้มีการหารือถึงเส้นทางการขนส่งสินค้าเกษตรจากไทยไปจีน ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งสินค้าเกษตรผ่านเส้นทางรถไฟไทย – ลาว – จีน รวมทั้ง การเปิดด่านท่าเรือกวนเหล่ยของจีนอย่างเป็นทางการ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ถือเป็นช่องทางสำคัญในการขนส่งสินค้าเกษตร ทำให้ไทยสามารถมีช่องทางส่งผลไม้ไปจีนเพิ่มขึ้น รวมถึงขอให้จีนช่วยผลักดันสินค้าเกษตรไทยที่มีคุณภาพเพื่อส่งเสริมเกษตรกรไทยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นมีรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนขณะเดียวกันทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกันที่จะใช้กรอบความร่วมมือที่มีอยู่ในการส่งเสริมการดำเนินความร่วมมือทางวิชาการและฝ่ายจีนพร้อมที่จะสนับสนุนโครงการความร่วมมือทางวิชาการให้กับฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ฝ่ายไทยยังได้ผลักดันการลงนามในพิธีสารว่าด้วยความปลอดภัยอาหาร ด้านการสัตวแพทย์ และการปกป้องพืช เพื่อการส่งออกผลิตภัณฑ์จากผึ้งจากประเทศไทยไปประเทศจีน และติดตามความคืบหน้าการเปิดตลาดสินค้าเกษตร เช่น โคมีชีวิต สินค้าพืช และประมงอย่างไรก็ตาม นางนฤมล มีกำหนดการเดินทางไปยังนครคุนหมิง (Kunming) เพื่อเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเกษตรประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ 3 (GMS Agricultural Ministers’ Meeting) วันที่ 19-22 พฤศจิกายน 2567 จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นโอกาสอันดีที่ทั้งสองฝ่ายจะได้มีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายจีน เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านวิชาการและการค้า และอาจเป็นโอกาสในการลงนามในพิธีสารดังกล่าว ซึ่งฝ่ายจีนตอบรับที่จะสนับสนุนให้มีการลงนามต่อไป
สำหรับสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นประเทศคู่ค้าสินค้าเกษตรอันดับที่ 1 ของไทย ในระหว่างปี 2564 – 2566 มีสัดส่วนการค้าสินค้าเกษตรร้อยละ 22.11 ของมูลค่าการค้าสินค้าเกษตรของไทยกับโลก โดยในปี 2564 มีมูลค่าการค้าสินค้าเกษตร 447,403 ล้านบาท และมีมูลค่าเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 2565 และ 2566 เป็นมูลค่า 499,166 ล้านบาท และ 543,962 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าการค้าสินค้าเกษตรเฉลี่ยปีละ 496,844 ล้านบาท โดยมีอัตราการค้าเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 10.26% ต่อปี สำหรับสินค้าส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. ทุเรียนสด 2. มันสำปะหลังฝานหรือทำเป็นเพลเลต 3. สตาร์ชทำจากมันสำปะหลัง 4. ยางธรรมชาติที่กำหนดไว้ในทางเทคนิค 5. ผลไม้และลูกนัตอื่นๆ