ไทย-จีน ใช้ดิจิทัลดึงวัตถุโบราณ พัฒนาอุตสาหกรรมวัฒนธรรม

ไทย-จีน ใช้ดิจิทัลดึงวัตถุโบราณ พัฒนาอุตสาหกรรมวัฒนธรรม

วันที่ 3 มิถุนายน 2565 สำนักข่าว ซินหัว รายงานผลการประชุมด้านวัฒนธรรมจีน–อาเซียน ครั้งที่ 17 ผ่านระบบวิดีโอ เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ซึ่งมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีไทยเข้าร่วม ในหัวข้อ “การกระตุ้นวัตถุทางวัฒนธรรมของพิพิธภัณฑ์ และการพัฒนาอุตสาหกรรมวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์” (Museum Cultural Relics Activation and Cultural and Creative Industry Development) 

การประชุมจัดที่เมืองเป่ยไห่ เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ทางตอนใต้ของจีน  โดยกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวจีน ร่วมกับรัฐบาลกว่างซีของจีน ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ โดยมีผู้เข้าร่วมจากจีนและอาเซียนราว 250 คน  ที่ประชุมเห็นพ้องว่าการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาสร้างความน่าสนใจให้วัตถุทางวัฒนธรรมในยุคโรคระบาดใหญ่ ไม่เพียงฟื้นฟูความมีชีวิตชีวาของวัตถุทางวัฒนธรรมโบราณแต่ยังช่วยดึงเอาศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดในอุตสาหกรรมวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ออกมาใช้ประโยชน์ด้วย

นายวิษณุกล่าวว่าไทยและจีนมีโอกาสร่วมมือด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์อยู่มากมาย โดยเฉพาะยามมีการใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตและดิจิทัลเป็นวงกว้าง ขณะการประกอบอาชีพใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมดังกล่าวจะส่งเสริมทั้งสองฝ่ายบอกเล่าเรื่องราวทางวัฒนธรรมของตนเองได้ดียิ่งขึ้นขณะที่จีนมีประสบการณ์มหาศาลในการทำให้วัตถุทางวัฒนธรรม” มีชีวิต” ขึ้นมาจริงๆ  เช่น โครงการ “ตุนหวงดิจิทัล” “พิพิธภัณฑ์พระราชวังดิจิทัล” และ “พิพิธภัณฑ์ดิจิทัล”ที่จีนพัฒนาด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลซึ่งช่วยกระตุ้นการพัฒนาอุตสาหกรรมวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์

นอกจากนั้นวิษณุเผยว่าไทยยินดีต้อนรับและสนับสนุนจีนในการส่งเสริมการกระตุ้นวัตถุทางวัฒนธรรมและการพัฒนาคุณภาพสูงของอุตสาหกรรมวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ การใช้เทคโนโลยีคลังข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ปัญญาประดิษฐ์ และการสำรวจระยะไกล เพื่อปฏิรูปและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ รวมถึงดำเนินความร่วมมือระหว่างไทยและจีนในการฟื้นฟูวัตถุทางวัฒนธรรมของพิพิธภัณฑ์ และการพัฒนาอุตสาหกรรมประเภทนี้อย่างรอบด้าน 

“ความเจริญมั่งคั่งทางวัฒนธรรมร่วมกันจะกลายเป็นพลังส่งเสริมการพัฒนาในภูมิภาคจีน–อาเซียนที่ลึกซึ้ง ต่อเนื่อง และเฟื่องฟูยิ่งขึ้น” นายวิษณุกล่าว

ด้าน นิตยา กนกมงคล ผู้อำนวยการสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กล่าวว่าโรคระบาดใหญ่ส่งผลกระทบต่อพิพิธภัณฑ์ทั่วโลกอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงแต่พิพิธภัณฑ์หลายแห่งปรับตัวเข้ากับความปกติใหม่ด้วยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสร้างพื้นที่การเรียนรู้บนโลกออนไลน์

ส่วน จาง ซวี่ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีน กล่าวว่า กลุ่มประเทศอาเซียนมีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง รวมถึงมีวัตถุทางวัฒนธรรมมากมาย การกระตุ้นวัตถุทางวัฒนธรรมเพื่อส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์จึงถือเป็นพันธกิจร่วมกัน จีนยินดีเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือกับกลุ่มประเทศอาเซียนในด้านการดำเนินงานและการจัดการพิพิธภัณฑ์ การจัดแสดงวัตถุทางวัฒนธรรมในพิพิธภัณฑ์ การสร้างความเป็นดิจิทัลของวัตถุทางวัฒนธรรม การคุ้มครองวัตถุและมรดกทางวัฒนธรรม และการพัฒนาอุตสาหกรรมวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ เพื่อร่วมส่งเสริมการหารือแลกเปลี่ยนทางอารยธรรมต่อไป

 

ที่มา https://www.xinhuathai.com/high/286594_20220603

         https://www.prachachat.net/world-news/news-946784