บลจ.ไทยพาณิชย์ มองโอกาสลงทุนหุ้นจีน คาดมีโมเมนตัมเป็นบวกมากขึ้น เปิดกองทุน SCBDSHARC1YK หาโอกาสสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มกับ HSCEI Index เริ่มต้นลงทุนขั้นต่ำ 500,000 บาท เสนอขายวันที่ 22 เม.ย.-พ.ค.2567
วันที่ 22 เมษายน 2567 นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ประธารเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBAM เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นจีนมีทิศทางการปรับตัวดีขึ้น หลังจากที่ภาครัฐจีนออกนโยบายมาตรการด้านตลาดทุนเพื่อเสริมเสถียรภาพตลาดหุ้นจีนและเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ประกอบกับจีนเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ซึ่งเห็นได้จากตัวเลข PMI ภาคการผลิตของจีนเดือนมีนาคม 2567 รวมถึงการรายงานดัชนีกิจกกรมทางธุรกิจนอกภาคการผลิต ดัชนีรวมภาคการผลิตและบริการ ที่มีการขยายตัวสูงกว่าร้อยละ 500 โดยภาคการผลิตมีการขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบครึ่งปีที่ ผ่านมา และสร้างสถิติสูงสุดในรอบ 1ปี จึงมองเป็นปัจจัยหนุนให้ตลาดจีนมีโอกาสกลับมาฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป
อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นจีนอาจยังมีปัจจัยกดดันจากปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงความตึงเครียดทางการเมืองและการแข่งขันด้สนเศรษฐกิจ-เทคโนโลยีระหว่างสหรัฐ-จีน ที่อาจส่งผลให้เกิดความผันผวนในบางจังหวะ แต่โอกาสที่ตลาดจะปรับตัวลงแบบรุนแรงในระยะ 12 เดือนข้างหน้าค่อนข้างจำกัด อย่างไรก็ดี SCBAM ยังมองเป็นโอกาสสำหรับการลงทุนกับตลาดหุ้นจีนด้วยกลยุทธ์บริหารจัดการที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นจีนทั้งในจังหวะขาขึ้นและขาลง
ผ่านตลาดหุ้นจีน H-Shares โดยอ้างอิงตามดัชนี Hang Seng China Enterprises (HSCEI Index) ควบคู่ไปกับการลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีที่มีความผันผวนต่ำ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ลงทุนที่นักลงทุนให้การตอบรับดีมาโดยตลอด จากการออกเสนอขายกองทุนในช่วงทีี่ผ่านมา SCBAM จึงเป็นกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Double Structrued Complex Return 1 YK หรือ SCBSHARC1YK โดยจะเปิดเสนอขายครั้งแรกและครั้งเดียวระหว่าง วันที่ 22 เมษายน – 7 พฤษภาคม 2567 นี้ เริ่มต้นลงทุนขั้นต่ำ 500,000 บาท
กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Double Strutured Complex Return 1 YK ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย หรือ SCBSHARC1YK กองทุน Complex Fund อายุ 1 ปี ที่มีโอกาสได้รับผลตอบแทน จากการแบ่งนโยบายการลงทุน เป็น 2 ส่วน คือ 1) โอกาสรับผลตอบแทนคงที่จากการลงทุนในตราสารหนี้และเงินฝากระดับ Investment Grade ทั้งในและต่างประเทศ ในสัดส่วนร้อยละ 98.30 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน (NAV) โดยมีการป้องความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน จึงสามารถช่วยลดความเสี่ยงการขาดทุนเงินต้นได้ 2) โอกาสรับผลตอบแทนส่วนเพิ่มที่มีลักษณะการจ่ายแบบ Twin win จากการลงในสัญญาออปชั่นที่อ้างอิงการเครื่อนไหวของดัชนี Hang Seng China Enterprises หรือ HSCEI Index ร้อยละ 1.70 ของ NAV เพื่อหาผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากการเปลี่ยนแปลงของราคาดัชนี HSCEI ทั้งขาขึ้นและขาลง ที่ไม่เกินกรอบการพิจารณาการรับผลตอบแทน +/- 27% (Knock out Level) และมี Strike Level ที่ +/-5%
ประกอบการพิจารณาในผลตอบแทนส่วนที่ 2 นี้ เมื่อเที่ยบกับราคาสินทรัพย์ ณ วันเริ่ม ต้นสัญญา ก็จะทำให้มีโอกาสรับผลตอบแทนส่วนเพิ่มสูงสุดที่เป็นไปได้ที่ 11% ซึ่งหากราคาดัชนีอ้างอิงเปลี่ยนแปลงเกินกว่า Knock out Level ที่กำหนดไว้ระหว่างอายุสัญญา หรือเปลี่ยนแปลงไม่เกินกว่า Strike Level ณ วันพิจารณาสัญญา อาจทำให้ผู้ลงทุนไม่ได้รับผลตอบแทนส่วนเพิ่มนี้ แต่ยังคงได้รับผลตอบแทนในอัตราคงที่จากการลงทุนในส่วนของตราสารหนี้และเงินฝาก
กองทุนมีความเสี่ยงผิดชำระหนี้(Default Risk) ที่อาจเกิดขึ้นจากการผิดชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร/เงินฝาก ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ลงทุนไม่ได้รับเงินต้นคืนเต็มจำนวนได้ และผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนในช่วงเวลา 1 ปี หากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก กองทุนนี้เป็นการลงทุนในผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีความซับซ้อนซึ่งมีปัจจัยอ้างอิง มีความแตกต่างจากการลงทุนในปัจจัยอ้างอิงโดยตรง
จึงอาจทำให้ราคาของผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนดังกล่าวมีความผันผวนแตกต่างจากราคาของปัจจัยอ้างอิงได้ (ในกรณีที่เป็นกองทุนรวมที่มีปัจจัยอ้างอิง (Underlying Asset) และกำหนดเงื่อนไขการจ่ายผลตอบแทนโดยอ้างอิงกับปัจจัยอ้างอิงดังกล่าว) ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง รวมถึงควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนการลงทุน