“แพทองธาร” เยือนจีนเจอ “สี จิ้นผิง” พร้อมร่วมมือสกัดกั้นอาชญากรรมทุกรูปแบบ ด้าน “สี จิ้นผิง” ลั่น พร้อมสนับสนุนแก้ปัญหาปราบปรามขบวนการหลอกลวงออนไลน์ มุ่งยกระดับความสัมพันธ์ ด้าน ปธ.สภาจีน ยันสัมพันธ์ไทย–จีนแน่นแฟ้น ขณะที่นายกฯ ยันหนุนหลักการ “จีนเดียว”
วันที่ 6 ก.พ. 2568 เมื่อเวลา 10.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงปักกิ่ง ที่เร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง) ที่มหาศาลาประชาชน สาธารณรัฐประชาชนจีน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าเยี่ยมคารวะ นายสี จิ้นผิง(H.E. Xi Jinping) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในโอกาสเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “สวัสดีปีใหม่จีน และยินดีที่ได้มาเยือนจีนในปี 2568 ซึ่งเป็นปีที่พิเศษครบรอบ 50 ปีของความสัมพันธ์ไทย–จีน จีนถือเป็นหุ้นส่วนสำคัญทางเศรษฐกิจของไทย และเป็นประเทศคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทยต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 นักลงทุนจีนถือเป็นอันดับต้นๆ ของไทยต่อเนื่องหลายปีมูลค่ากว่าแสนล้านดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนให้เห็นว่าไทย–จีน มีมิติทางความสัมพันธ์เป็นพิเศษ และไทยเดินหน้าด้านความเชื่อมโยงระหว่างไทย–จีน วันที่ 4 ก.พ. รัฐบาลได้มีมติคณะรัฐมนตรี อนุมัติดำเนินการโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร – หนองคาย ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา – หนองคาย
นอกจากนี้ไทยยังมีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ โครงการ Entertainment complex และ Land bridge ซึ่งจะเป็นโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจ
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ด้านความปลอดภัยของประชาชน และนักท่องเที่ยวที่มาประเทศไทย เป็นสิ่งที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญสูงสุด ซึ่งไทยพร้อมเดินหน้าความร่วมมือกับจีนในการสกัดกั้นกระบวนการอาชญากรรมที่เดินทางผ่านประเทศไทยและจะเตือนภัยผ่านกลไกความร่วมมือกันอย่างเป็นระบบ ทั้งนี้เป็นที่น่ายินดีที่ทั้งสองฝ่าย รวมถึงประเทศที่เกี่ยวข้องในภูมิภาค ได้มีความร่วมมือที่ใกล้ชิดในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติขบวนการ call center อย่างจริงจังแล้วในปัจจุบัน
“สี จิ้นผิง” ลั่น สนับสนุนแก้ปัญหาโจรออนไลน์
ด้านนายสี จิ้นผิง กล่าวถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และกล่าวว่าตลอดระยะเวลา 50 ปี ไทย–จีนมีหลักการและวิสัยทัศน์ความร่วมมือในการแบ่งปันความเจริญรุ่งเรือง พร้อมสนับสนุนบทบาทไทยในทุกกรอบความร่วมมือ และควรขยายความร่วมมือในด้านต่างๆ ทั้งการพัฒนารถไฟความเร็วสูง เศรษฐกิจดิจิทัล เขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC และการใช้ประโยชน์ความร่วมมือเศรษฐกิจ ไทย ลาว จีน และประเทศจีนจะมีการจัดงาน“China International Import Expo” ซึ่งถือเป็นงานสำคัญของการค้าขายระหว่างกัน ซึ่งจีนยังสนับสนุนสินค้าและบริการที่ดีของไทยมาที่ประเทศจีน ส่วนความร่วมมือในด้านยุทโธปกรณ์ทางทหารนั้น ไทย จีนมีจุดเริ่มต้นจากโครงการเรือดำน้ำ อย่างไรก็ตามจีนสนับสนุนอย่างเข้มแข็งในการปราบปราม ขบวนการหลอกลวงออนไลน์ (online scam) การลักพาตัว การค้ามนุษย์ ซึ่งถือเป็นการบั่นทอนผลประโยชน์ของประชาชนจีน เป้าหมายหลักของทั้งสองประเทศ คือ การปราบปรามกิจกรรมผิดกฎหมาย ที่ผ่านมาจีนได้ร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและท้องถิ่นสามารถปราบปรามยาเสพติดจนประสบความสำเร็จ โดยอาชญากรรมข้ามชาติ ถือเป็นความท้าทาย มีความเสี่ยงสูง และชื่นชมรัฐบาลไทยที่พยายามอย่างเต็มที่และเป็นรูปธรรมโดยเฉพาะการตัดน้ำ ไฟอินเทอร์เน็ตและน้ำมัน ที่จะสามารถตัดวงจรกิจกรรมที่เป็นอาชญากรรมต่างๆ ได้ และเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปราม จะดูแลความปลอดภัยและผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศด้วยการยกระดับการบังคับใช้กฎหมายทั้งในระดับทวิภาคีและอนุภูมิภาค
มุ่งยกระดับความสัมพันธ์
นายจีจิ้นผิง กล่าวอีกว่า สำหรับการยกระดับความร่วมมือในระดับประชาชน อาทิ การจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ 50 ปี ไทย–จีน ในการอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วมาประดิษฐานที่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราวรวมทั้งการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนการแสดงวัตถุโบราณ การส่งมอบแพนด้ายักษ์ รวมไปถึงการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างกลุ่มคนรุ่นใหม่ และการให้ทุนการศึกษา และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและ soft power เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ทั้งในด้านวัฒนธรรมดั้งเดิมและสื่อวัฒนธรรมสมัยใหม่ ความร่วมมือด้านสื่อ วัฒนธรรม เพื่อส่งต่อความร่วมมือจากรุ่นสู่รุ่น เป็นสิ่งที่ทั้งสองประเทศจะได้ร่วมมือกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงท้ายการหารือ ประธานาธิบดีจีนยินดีที่ไทยได้เข้าเป็นสมาชิกประเทศหุ้นส่วนของBRICS พร้อมมั่นใจว่า นายกรัฐมนตรีจะประสบความสำเร็จในการเยือนนี้ และจะได้พบกับน.ส.แพทองธารอีกครั้งที่เมืองฮาร์บินในวันพรุ่งนี้ ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีได้กล่าวอวยพรให้การแข่งขันเอเชียนเกมส์ฤดูหนาวครั้งที่ 9 ประสบความสำเร็จ
ปธ.สภาจีน ยันสัมพันธ์ไทย–จีนแน่นแฟ้น
ต่อมาเวลาประมาณ 11.00 น. น.ส.แพทองธาร ได้เข้าพบหารือกับนายจ้าว เล่อจี้ ประธานสภาประชาชนแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยนายจ้าว กล่าวแสดงความยินดีที่น.ส.แพทองธาร ได้มาเยือนจีนในช่วงเวลาสำคัญที่เป็นปีฉลองครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ไทย–จีนเป็นหุ้นส่วนที่มีอนาคตร่วมกัน ทั้งสองประเทศมีความเป็นมิตรภาพที่ลึกซึ้ง สมคำกล่าวที่ว่า “ไทย–จีน มิใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” การที่นายกรัฐมนตรีได้เข้าเยี่ยมคารวะประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แสดงถึงความตั้งใจของทั้งสองประเทศในการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อผลักดันความร่วมมือระหว่างกันเพื่อประโยชน์ของทั้งสองประเทศ รวมถึงความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนด้านนิติบัญญัติ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือที่สำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ จึงขอฝากความระลึกถึงไปยังประธานรัฐสภาและประธานวุฒิสภาของไทยด้วย
“อิ๊งค์” หนุนหลักการ “จีนเดียว”
ด้าน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ขอบคุณสำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ขอบคุณที่ประเทศจีนเป็นมิตรและหุ้นส่วนที่สำคัญทางเศรษฐกิจ และไทยพร้อมส่งเสริมความร่วมมืออย่างแนบแน่นในทุกระดับ เพื่อสร้างอนาคตของความร่วมมือไทย–จีนให้มั่นคงยิ่งขึ้น รวมถึงความร่วมมือทางฝ่ายนิติบัญญัติด้วย ขอยืนยันว่ารัฐบาลไทยยึดมั่นในหลักการ “จีนเดียว” และพร้อมสนับสนุนการแลกเปลี่ยนระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติไทย–จีน เชื่อว่าในโอกาสพิเศษของการเฉลิมฉลองปีทองแห่งมิตรภาพไทย–จีนในปีนี้ จะมีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง และขอบคุณที่ให้การสนับสนุนการอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วมาประดิษฐานที่ประเทศไทย และเตรียมพร้อมการต้อนรับทูตสันถวไมตรี “แพนด้ายักษ์” อีกทั้งรัฐบาลไทยพร้อมดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวรวมถึงส่งเสริมความร่วมมือในระดับประชาชน โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนระหว่างกลุ่มคนรุ่นใหม่ การให้ทุนการศึกษา และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและ soft power เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน และไทยยังรอต้อนรับการเยือนของประธานสภาประชาชนแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนจีนในปีนี้ ซึ่งถือเป็นการเยือนครั้งแรกในรอบ 14 ปี และจะมีส่วนช่วยเพิ่มพูนความเชื่อใจระหว่างกันอีกด้วย
นายกรัฐมนตรีร่วมพิธีวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์วีรชน จัตุรัสเทียนอันเหมิน
ต่อมาเมื่อเวลา 11.10 น. ตามเวลาท้องถิ่น (เวลากรุงปักกิ่งเร็วกว่ากรุงเทพฯ 1 ชั่วโมง) ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินน.ส.แพทองธารร่วมพิธีวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์วีรชน เมื่อเดินทางถึง วงดุริยางค์ทหารบรรเลงเพลงชาติไทยและเพลงชาติสาธารณรัฐประชาชนจีนตามลำดับ จากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินตามนายทหารเกียรติยศฝ่ายจีน ซึ่งเป็นผู้เชิญพวงมาลาไปยังจุดวางพวงมาลา โดยเดินผ่านแถวทหารเกียรติยศ และขึ้นบันไดไปยังด้านหน้าอนุสาวรีย์วีรชน ขณะนั้น วงดุริยางค์ทหารบรรเลงเพลง Flowers to the Heroes นายทหารเกียรติยศฝ่ายจีนเชิญพวงมาลาไปวาง ณ ขาตั้ง นายกรัฐมนตรียืนสงบนิ่งเบื้องหน้าอนุสาวรีย์วีรชน ขณะนั้น วงดุริยางค์ทหารบรรเลงเพลง Tribute to the Heroes หลังเสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรีและคณะเดินลงจากอนุสาวรีย์วีรชน และเดินทางออกจากจัตุรัสเทียนอันเหมิน เสร็จสิ้นพิธี