เป็นห่วงเวลาอันมงคลของประเทศจีน หลังวันที่ 1 ตุลาคม นี้ จะเป็นโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 74 ปี
โดยทางสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยได้จัดงานอย่างยิ่งใหญ่ที่โรงแรง แซงกรี-ลา กรุงเทพฯ วันที่ 20 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา มี นายหาน จื้อเฉียง เอกอัคคราชทูตจีนประจำประเทศไทย และนาง หวัน ฮวน ภริยา ให้การตอนรับแขกผู้ทรงเกียรติในประเทศไทย
พร้อมชูบทบาทอันโดดเด่นของประเทศจีนในประวัติศาสตร์ ซึ่งขออนุญาตินำมาถ่ายทอดดังต่อไปนี้ว่า ตลอด 74 ปีที่ผ่านมา ประชาชนจีนมีความสามัคคีและร่วมกันบากบั่นต่อสู้ ประเทศจีนมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วและมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ทุกวัน ปัจจุบันนี้ประชาชนจีนทั่วทั้งประเทศกำลังมุ่งหน้าไปสู่การบุกเบิกครั้งใหม่เพื่อสร้างสังคม ที่ทันสมัยอย่างรอบด้านด้วยจิตวิญญาณอันแรงกล้า และผลักดันการฟื้นฟูความรุ่งเรืองครั้งยิ่งใหญ่ของประชาชนจีนด้วย ความทันสมัยแบบจีน
“ประเทศจีนเป็นเครื่องจักรในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก ในกว่าทศวรรษที่ผ่านมาจีนมีส่วนต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 30% ทุกปี ในครั้งแรกของปี 2566 เศรษฐกิจจีนขยายตัว 5.5% รักษาแน้วโน้มการเจริญเติบโตที่ดีและมั่นคง แสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันมหาศาล ประเทศจีนยังเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญต่อสันติภาพและการพัฒนาของโลก เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ ระหว่างประเทศที่แปรปรวน และความท้าทายระดับโลก นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เสนอข้อริเริ่มว่าด้วยว่าด้วยการพัฒนาระดับโลก ความมั่นคง ระดับโลก อรายธรรมระดับโลก เผื่อผลักดันการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน”
สำหรับปรเทศไทยเพื่อนบ้านที่เชื่อมต่อกันด้วยภูเขาและแม่น้ำ เป็น “ญาติสนิท” ที่ผูกพันกันด้วยสายเลือดและเป็น “หุ้นส่วนโชคชะตาร่วมกัน” มิตรภาพจีน-ไทยมีประวัติศาสตร์อันยาวนานและนับวันยิ่งเน้นแฟ้นขึ้น ตามกาลเวลาภายใต้สถานการณ์ใหม่ แม้ความสัมพันธ์ระหว่างเรากำลงเผชิญความท้าทายจากปัจจัยระหว่างประเทศที่ซับซ้อน แต่ยังได้พบกับโอกาสทางประวัติที่ยิ่งใหญ่
จีนยินดีที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาลชุดใหม่ของไทยที่นำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อสนับสนุนเสถียรภาพ ความมั่นคง และการพัฒนาของประเทศซึ่งกันและกัน ตลอดจนกระชับการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือด้านต่างๆ ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น พร้อมส่งเสริมการสร้าง “ประชาคมจีน-ไทย” ที่มีอนาคตร่วมกัน อย่างรอบด้าน ท่านเอกอัครราชทูตจีนหาน จื้อเฉียง กล่าวทิ้งท้ายในงานฉลอง 74 ปี สถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน.