ม.หอการค้าไทย ชูหลักสูตรปั้นธุรกิจไทยบุกตลาดจีน

ม.หอการค้าไทย ชูหลักสูตรปั้นธุรกิจไทยบุกตลาดจีน

สนั่น เผย ม.หอการค้าไทย หอการค้าไทย และ BLCU เปิดหลักสูตร TEPCIAN รุ่น 2 รุกธุรกิจไทยเข้าจีน ชี้ จีนยังเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย การค้าระหว่างไทย-จีน 5 เดือนแรก 2565 มีมูลค่ากว่า 44,000 ล้านเหรียญสหรัฐวันที่ 19 กรกฎาคม 2565 นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ร่วมกับหอการค้าไทย และมหาวิทยาลัยภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง (BLCU) เปิดตัวหลักสูตร TEPCIAN (Top Executive Program on China Business Insights and Network) รุ่นที่ 2 หรือหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านองค์ความรู้และความร่วมมือทางธุรกิจจีน ที่นำเอาความสุดยอดขั้นเซียนของแต่ละองค์กร มาบูรณาการร่วมกันจนกลายเป็นหลักสูตรที่จะเชื่อมเครือข่ายธุรกิจ สานสัมพันธ์ไทย-จีน ให้เกิดความเข้าใจอันดี และมีการต่อยอดทางธุรกิจระหว่างกัน

ทั้งนี้ หอการค้าไทยมองว่า เศรษฐกิจจีนมีความสำคัญต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างมาก และประเทศจีนก็ยังเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย ซึ่งการค้าระหว่างไทยและจีนในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-พ.ค. 65) มีมูลค่ากว่า 44,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 9.2% โดยการส่งออกขยายตัว 1.57% ส่วนการนำเข้าขยายตัว 13.59%

นอกจากนั้น ในด้านการลงทุนของจีนในไทย เมื่อปี 2564 มีมูลค่าการลงทุนอยู่ที่ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คาดว่าในปี 2565 เมื่อสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายก็จะทำให้การลงทุนของจีนในไทยดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องด้วยมิตรภาพอันดีระหว่างไทยและจีน อีกทั้งไทยยังมีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานและสภาพแวดล้อมที่เหมาะต่อการเข้ามาอยู่อาศัยและทำธุรกิจ “แม้ว่าเศรษฐกิจของจีนในไตรมาสที่ 2 จะเติบโตได้น้อยกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ เนื่องจากมีการล็อกดาวน์ในช่วงที่ผ่านมา แต่เศรษฐกิจภายในของจีนยังมีความแข็งแกร่งอยู่มาก ตัวเลขหลายอย่างของจีน เช่น การค้าปลีก และการส่งออก ยังคงเติบโตได้ดี ดังนั้น การสร้างความสัมพันธ์ทางการค้ากับจีนจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยเติบโตได้อีกมากในอนาคต”

นายธนวรรธน์ พลวิชัย รองศาสตราจารย์ และอธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า การเรียนการสอนของหลักสูตร TEPCIAN จะเน้นกระบวนการแลกเปลี่ยนความรู้และวิสัยทัศน์ เรียนรู้จากประสบการณ์จริงจากผู้บริหารและผู้ประกอบการที่เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในไทยและจีน ทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน สามารถเสริมสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ด้านการค้า และการพาณิชย์ระหว่างผู้บริหารระดับสูง ในภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งไทยและจีน โดยเริ่มเรียนรู้จากประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของจีน เรื่อยมาจนถึงนโยบายการสร้างชาติจีนใหม่ โครงสร้างการบริหารประเทศ ตลอดจนการเติบโตทางธุรกิจและเทคโนโลยี นอกจากนั้นยังเป็นหลักสูตรที่เน้นพัฒนาผู้เรียนให้สามารถสื่อสารภาษาจีนได้ในชีวิตประจำวัน เข้าใจวัฒนธรรมจีน ตลอดจนสร้างความประทับใจในการร่วมมือทางธุรกิจกับจีนได้

นางสาวฐิตินันท์ วัธนเวคิน ผู้อำนวยการร่วมหลักสูตร TEPCIAN และผู้แทนจาก BLCU กล่าวว่า ด้วยความร่วมมือของทั้ง 3 องค์กร เชื่อว่าหลักสูตร TEPCIAN เป็นหลักสูตรหนึ่งเดียวที่รวมองค์ความรู้และการเชื่อมเครือข่ายธุรกิจไว้ในที่เดียวกัน ที่สามารถสร้างโอกาสต่อยอดทางธุรกิจระหว่างไทยและจีน ให้เกิดขึ้นได้จริง ซึ่งทาง BLCU มีความเชี่ยวชาญในการสอนภาษาจีนเพื่อธุรกิจสำหรับชาวต่างชาติมาอย่างยาวนาน จึงมั่นใจได้ว่า ผู้เรียนจะได้รับประโยชน์จากการเรียนภาษาจีนอย่างแน่นอน

 

ที่มา https://www.prachachat.net/economy/news-984586