นายกรัฐมนตรีหลี่เค่อเฉียง เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 ส.ค. ที่ประชุมมีมติเพิ่มความช่วยเหลือให้แก่ภาคธุรกิจและประชาชนที่เผชิญความยากลำบาก โดยจะลดต้นทุนทางการเงินให้ภาคธุรกิจ และลดดอกเบี้ยสำหรับการบริโภคให้ประชาชน
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจีนระบุว่า เศรษฐกิจจีนรักษาการฟื้นตัวได้หลังการระบาดของโรคโควิด-19 แต่ยังมีความผันผวนเล็กน้อย จึงจำเป็นที่ต้องเพิ่มมาตรการทางการเงินและการคลังเพื่อสนับสนุนภาคเศรษฐกิจจริง
ทางการท้องถิ่นต่างๆ จะสามารถออกพันธบัตรให้สัดส่วนที่เหมาะสมตามกฎหมาย และสามารถออกมาตรการดอกเบี้ยเงินกู้อัตราพิเศษได้
เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 และภัยธรรมชาติ ในครึ่งปีแรก รัฐบาลจีนได้เพิ่มเงินช่วยเหลือทางการเงินมากกว่า 120,000 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 จากปีที่แล้ว นอกจากนี้ ยังจะเพิ่มการช่วยเหลือด้านชีวิตประจำวันให้ประชาชนที่ยากลำบาก โครงการอุดหนุนค่าครองชีพจะขยายมากขึ้นเพื่อช่วยให้ประชาชนเข้มแข็งขึ้น
ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 ถึงมีนาคม 2566 จะมีการปรับสวัสดิการสังคมเพื่อให้สอดคล้องกับราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น และจะขยายสวัสดิการไปยังประชาชน 7 กลุ่ม ทั้งผู้ที่ดำรงชีพด้วยเงินช่วยเหลือ เด็กกำพร้า ผู้ที่รับเงินช่วยเหลือว่างงาน และผู้มีรายได้น้อยแต่ยังไม่เข้าข่ายได้รับเงินช่วยเหลือ การขยายสวัสดิการสังคมนี้จะครอบคลุมประชาชนรวมกว่า 67 ล้านคน
รัฐบาลจีนจะให้เงินสนับสนุนกับท้องถิ่นต่างๆ ตามสัดส่วนงบประมาณที่ทางการท้องถิ่นเพิ่มเติมให้โครงการช่วยเหลือและอุดหนุนราคาสินค้า
กิจการการดูแลผู้สูงอายุและดูแลเด็กจะได้รับความช่วยเหลือพิเศษ โดยจะงดเว้นค่าเช่าที่ให้ผู้ประกอบการบุคคล และธุรกิจ SMEs ที่เช่าที่ดินของรัฐ
นอกจากนี้ จะงดเว้นภาษีให้ผู้ที่ซื้อรถยนต์พลังงานใหม่ มาตรการนี้จะได้รับการต่ออายุเป็นครั้งที่ 3 ไปจนถึงสิ้นปี 2566 คิดเป็นมูลค่าเงินภาษีที่ยกเว้นให้รถยนต์พลังงานสะอาด 100,000 ล้านหยวน