ตำรวจบุกจับนักพนันชาวต่างชาติ 12 คน คาบ่อนทุนจีนสีเทา เปิดร้านอาหารบังหน้า จ้างหญิงไทยเป็นผู้ดูแลตรวจยึดอุปกรณ์เล่นพนัน พร้อมเงินสดของกลางมูลค่าหลายล้านบาท
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ สน.บางโพงพาง พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัยผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 และ พ.ต.อ.ศิรณวิชญ์ อินทร ผกก.สส.บก.น.5 พร้อมชุดสืบสวน กก.สส.บก.น.5 และชุดสืบสวน สน.บางโพงพาง ร่วมกันแถลงผลการเข้าจับบ่อนพนันโป๊กเกอร์ ภายในห้องเลขที่ 5555 ร้าน Bitcoin club ชั้น 3 อาคารแกแล็คซี่ แขวงช่องนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ หลังรับแจ้งว่าเปิดเป็นบ่อนการพนัน
สามารถจับกุมชาวต่างชาติรวม 12 คน แบ่งเป็นชาย 10 คน หญิง 2 คน สัญชาติจีน 8 คน สิงคโปร์ 2 คนฟิลิปปินส์ 1 คน และอินเดีย 1 คน
เจ้าหน้าที่ยังได้แจ้งข้อหา น.ส.ชัชชญา ภู่ประเสริฐ อายุ 31 ปี ผู้ดูแลชาวไทย ข้อหา “จัดให้มีการละเล่นการพนัน(ไพ่โป๊กเกอร์)” พร้อมของกลางดังนี้
1. เงินสดสกุลไทย จำนวน 319,400 บาท
2. เงินสดสกุลประเทศสิงคโปร์ จำนวน 5,308 เซนต์
3. เงินสดสกุลประเทศจีน จำนวน 7,035 หยวน
4. เงินสดสกุลประเทศฮ่องกง จำนวน 12,074 ดอลลาร์ฮ่องกง
5. เงินสดสกุลทวีปยุโรป จำนวน 100 ยูโร
6. เงินสดสกุลมาเก๊า จำนวน 70 หยวน
7. ชิปพร้อมกระเป๋า (อุปกรณ์แทนเงินสด) จำนวน 2 ใบ
8. ไพ่ 10 สำรับ
9. โต๊ะสำหรับเล่นโป๊กเกอร์ 1 ตัว
10. ตู้เซฟ 1 ใบ (ยังไม่ได้เปิด)
11. สุราต่างประเทศนำเข้าอย่างผิดกฎหมาย
เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนักพนันดำเนินคดีข้อหา “ร่วมกับพวกที่หลบหนีลักลอบเล่นการพนัน (ไพ่โป๊กเกอร์) พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต” นำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางโพงพาง
พล.ต.ท.สยาม เปิดเผยว่า การจับกุมในคดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่า สถานที่ดังกล่าวมีกลุ่มคนต่างชาติกำลังลักลอบเล่นการพนัน (ไพ่โป๊กเกอร์) พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาตอยู่บริเวณชั้น 3 ของอาคาร โดยชั้นล่างเปิดเป็นร้านอาหารบังหน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงบริเวณที่เกิดเหตุ พบนักพนันกำลังลักลอบเล่นไพ่โป๊กเกอร์ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการจับกุม โดยสามารถคุมตัวได้ 12 คน และสามารถหลบหนีไปได้ 10 กว่าคน โดยผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่าได้ลักลอบเล่นการพนัน พนันเอาทรัพย์สินกันจริง
จากการตรวจสอบเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดเข้ามาในฐานะนักท่องเที่ยว มีชาวสิงคโปร์หนึ่งรายที่วีซ่าหมดอายุ โดยหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบเส้นทางการเงิน นำของกลางส่งให้กับกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ เพื่อขยายผลว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องกับการลักลอบเปิดให้เล่นการพนันในครั้งนี้บ้าง และขยายผลดำเนินคดีในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในส่วนอื่นๆ
ด้าน พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า สำหรับบ่อนดังกล่าวเมื่อปี 66 เคยถูกจับกุมเรื่องของเสพยาเสพติดจนทำให้มีคนเสียชีวิต และได้ปิดกิจการไป ก่อนจะมาเปิดอีกครั้งโดยผู้ประกอบการเป็นคนละคนกัน จากการสอบปากคำนักพนันชาวต่างชาติให้การว่า มีเพื่อนชาวต่างชาติชักชวนให้มาเล่นการพนันแบบปากต่อปาก โดยอ้างว่าไม่รู้ว่าที่ประเทศไทยการเล่นพนันจะผิดกฎหมาย เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยเล่นเป็นปกติที่ต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศสิงคโปร์ ส่วนผู้ดูแลที่เป็นหญิงชาวไทยให้การว่า ตนได้รับการว่าจ้างจากนายจ้างที่เป็นคนจีนมานานกว่า 1 ปี
อ้างอิง:https://www.thairath.co.th/news/crime/2841908?gallery_id=5