6 ปัจจัยหนุ่นเศรษฐกิจจีน “เปิดโอกาสทองส่งออกไทย ปี 2567”

พูนพงค์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กล่าวว่าตลาดจีน ขยายตัว 31.2% กลับมาขยายตัวในรอบ 4 เดือน สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง ยางพารา และไม้และผลิดภัณฑ์ไม้ เป็นต้น สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น ผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก และแผงวงจรไฟฟ้า เป็นต้น ทั้งนี้ 5 เดือนแรกของปี 2567 ขยายตัว 1.5%

พูนพงค์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กล่าวว่าตลาดจีน ขยายตัว 31.2% กลับมาขยายตัวในรอบ 4 เดือน สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง ยางพารา และไม้และผลิดภัณฑ์ไม้ เป็นต้น สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น ผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก และแผงวงจรไฟฟ้า เป็นต้น ทั้งนี้ 5 เดือนแรกของปี 2567 ขยายตัว 1.5%

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ มีแผนการเพิ่มช่องทางการส่งออกสินค้าผลไม้โดยใช้อินฟลูเอนเซอร์ โดยพาณิชย์จังหวัดจันทบุรีร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการค้าต่างประเทศ นครกวางโจ จัดกิจกรรมร่วมอินฟลูเอนเซอร์จากจีนในการ LIVE สดขายทุเรียน จากจังหวัดจันทบุรี ตามนโยบายเพิ่มช่องทางการตลาดแบบใหม่โดยใช้อินฟลูเอนเซอร์ของกระทรสงพาณิชย์

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า จากการวิเคาราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจจีนพบว่า ปี2567 มีแน้วโน้มเป็นตลาดส่งออกที่สดใสจากปัจจัยหลัก 6 ประการได้แก่

1. ในปี 2567 คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนเติบโตที่ 4.7% โดยการบริโภค ภายในประเทศถือเป็นส่วนสำคัญหลักที่กระตุ้นให้เศรษฐกิจจีนขยายตัว  ทั้งนี้ นโยบายหลักของจีนระหว่างปี 2567-2571 จะให้ความสำคัญกับความมั่นคงการยกระดับอุตสาหกรรมและนวัตกรรม เทคโนโลยีการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนและเทคโนโลยีสมัยใหม่มากขึ้น

2. คาดการณ์ว่า จีนจะยังคงรักษาการบริโภคออนไลน์อันดับ 1 ของโลก เนื่องจากอัตรา การซื้อของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ยืนยันว่าความสามารถ ของการบริโภคและความต้องการของผู้บริโภคชาวจีนเพิ่มขึ้น

3. เศรษฐกิจแบบแบ่งปัน (Sharing Economy) ในจีนจะขยายตัวขึ้น จากสถิติปี 2559 ขนาดธุรกิจดังกล่าวมีมูลค่าราว 5.2 แสนล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าในปี 2568 การเติบโตของธุรกิจนี้จะเพิ่มขึ้น 40% และครองสัดส่วน 20% ของ GDP จีน

4. แนวโน้มอุปสงค์-อุปทานสินค้าเกษตรใน 10 ปีข้างหน้าของจีน ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า การนำเข้าไก่และหมูมีแน้วโน้มลดลง เนื่องจากจีนสามารถผลิตได้ในประเทศเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ผลไม้ โดยเฉพาะผลไม้ ที่ปลูกไม่ได้ในจีนมีแน้วโน้มนำเข้าสูงขึ้น

5. จีนดำเนินโคงการ “Global 1-2-3 Logistics Circle” เชื่อมต่อการจัดสรรทรัพยากร และการค้าทั่วโลก จีนจะสร้างระบบการขนส่งที่ทันสมัยครบวงจรภายในปี 2578 ตามที่ได้เผยแพร่ ในเอกสารสมุดปกขาวเรื่อง “การพัฒนาอย่างยั่งยืนของการขนส่งในจีน” โดยเปลี่ยนจุดเน้น จากความเร็วและขนาดไปสู่คุณภาพและประสิทธิภาพ

6. แน้วโน้มการเปลี่ยนแปลงของตลาดจีนส่วนใหญ่ขับเคลื่อนด้วยผลิตภัณฑ์ออกใหม่ และเป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับการเติบโตของการบริโภค เช่น โทรศัพท์มือถือ อาหาร/เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง เสื้อผ้า รถ เครื่องใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะผู้บริโภคที่ชอบแบรนด์ใดเป็นพิเศษจะติดตามการเปิดตัวผลิตภัฒฑ์ใหม่ ฟังก์ชั่นใหม่ รูปลักษณ์ใหม่ และประสบการณ์ใหม่จะกระตุ้นความต้องการซื้อมาก ขึ้นสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงเกิดจากผู้บริโภครุ่นใหม่มีกำลังซื้อสูง ในขณะที่พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เป็นพื้นที่ทดสอบตลาดที่ดีที่สุดสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ ผลการตอบรับจะส่งถึงแบรนด์ผู้ผลิตทันที

การส่งออกไปตลาดจีนตั้งแต่ต้นปี 2567 ที่ผ่านมาติดลบจนอาจต้องประเมินว่าจีนไม่ใช่โอกาสสำหรับการส่งออกอีกแล้วแต่หลัง

ผลไม้สดอย่างทุเรียนออกสู่ตลาดยอดการส่งออกก็ดีดขึ้นมาเพราะมูลค่าการส่งออกทุเรียนรวม 8.3 หมื่นล้านบาท เป็นการส่งออกไปตลาดจีนเมื่อ เม.ย.ที่ผ่านมามูลค่าสูงถึง 5 หมื่นล้านบาท เมื่อประเมินปัจจัยหนุนเศรษฐกิจจีนทั้ง 6 ประการแล้วก็น่าจะพอขยายโอกาสเพื่อการส่งออกในภาพรวมและในอนาคตต่อไปได้

ที่มา:
https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1132689