Soft power ไทย-จีน เชื่อมวัฒนธรรมพร้อมใช้ AI ร่วมผลิตผลงานวิเคราะห์ตลาด ยกระดับสู่บ็อกซ์ออฟฟิศโลก

นายธนัช จุวิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ YGG ซึ่งเป็นผู้นำทางด้านสร้างสรรค์ในอุตสาหกรรมแอนิเมชั่น กล่าวว่า บริษัทได้เซ็นสัญญาร่วมมือกับบริษัท เจ้อเจียงกั้วซาน คัลเจอร์ มีเดีย จำกัด หรือที่รู้จักในชื่อ บริษัท ฟันเทค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเอนเตอร์เทนเมนท์ของประเทศจีน เพื่อร่วมกันผลิตภาพยนต์แอนิเมชั่นฟีเจอร์ ทั้งหมด 5 เรื่อง ใช้ระยะเวลาในการผลิต 5 ปี โดยมีงบประมาณการลงทุนสูงกว่า 450 ล้านหยวน หรือ 2,500 ล้านบาท

อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จับมือกับบริษัท เจ้อเจียงฮั่วกั้วซาน คัลเจอร์ มีเดีย
หรือ “ฟันเทค” ยักษ์ด้านเอนเตอร์เทนเมนท์ของจีน

เปิดตัวโครงการผลิตภาพยนต์แอนิเมชั่นไร้ขีดจำกัด ผุด 5 โปรเจค มูลค่ากว่า 450 ล้านหยวน หรือ 2,500 ล้านบาท เตรียมดึงคอนเทน Soft Power ไทย-จีน เชื่อมวัฒนธรรม พร้อมใช้ AI ร่วมผลิตผลงานวิเคราะห์ตลาด ยกระดับสู่บ็อกซ์ออฟฟิศโลก ตามแผนยุทธศาสตร์ของบริษัทที่จะรุกตลาดต่างประเทศ เหตุรายได้ของ บริษัทเทียบกับตัวเลขตลาดโลกยัง มีโอกาสเติบโตก้าวกระโดด

นายธนัช จุวิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ YGG ซึ่งเป็นผู้นำทางด้านสร้างสรรค์ในอุตสาหกรรมแอนิเมชั่น กล่าวว่า บริษัทได้เซ็นสัญญาร่วมมือกับบริษัท เจ้อเจียงกั้วซาน คัลเจอร์ มีเดีย จำกัด หรือที่รู้จักในชื่อ บริษัท ฟันเทค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเอนเตอร์เทนเมนท์ของประเทศจีน เพื่อร่วมกันผลิตภาพยนต์แอนิเมชั่นฟีเจอร์ ทั้งหมด 5 เรื่อง ใช้ระยะเวลาในการผลิต 5 ปี โดยมีงบประมาณการลงทุนสูงกว่า 450 ล้านหยวน หรือ 2,500 ล้านบาท

โดยความร่วมมือในครั้งนี้ เพื่อต้องการยกระดับการผลิตยนต์แอนิเมชั่น ให้มีคุณภาพสูง และภายใต้ ความมุ่งมั่นของทั้งสองบริษัท จึงมีการกำหนดมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรมแอนิเมชั่น ในการใช้ประโยชน์จาก Soft Power ทางวัฒนธรรม และการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ที่ล้ำสมัยมาใช้ในการสร้างสรรค์ผลงาน และวิเคราะห์ตลาด ให้บรรลุตามเป้าหมาย เพื่อให้ผลงานที่ผลดออกมาดึงดูดความสนใจจากผู้ชมจากทั่วโลก และเป็นที่ต้องการของตลาดโลก

“โตรงการนี้ มีความมุ่งมั่นจากทั้งสองฝ่าย ทั้งใช้ประโยชน์จากความสามารถทางสร้างสรรค์ของ YGG กับความเชี่ยวชาญด้านการเล่าเรื่องของ บริษัทเจ้อเจียงฮั่วกั้วซานงานผลิตภาพยนแอนิเมชั่น ยังน่าสนใจตรงที่มีการสอดแทรกองค์ประกอบของวัฒนธรรมไทย-จีน จาก Soft Power มั่นใจผลงานครั้งนี้สามารถเข้าถึงตลาดบ็อกซ์ออฟฟิศของจีนที่กำลังเติบโต และความสำคัญต่อความสำเร็จของภาพยนต์ ระดับโลก ที่ผ่านมาพันธมิตรเรามีผลงานบนบ็อกซ์ออฟฟิศจีนหลายเรื่อง ถือเป็นการการันตีคุณภาพผลงาน ส่วนเป้าหมายของโปรเจคครั้งนี้ ตั้งเป้าไปสู่บ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลก”  “นายธนัช กล่าว”

ธนัช กล่าวอีก ความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญตามแผนกลยุทธ์ทางธุะรกิจของ YGG ในการร่วมมือของพันธมิตรต่างชาติ เพื่อขยายในทุกส่วนงานให้เติบโตบนเวทีตลาดโลก โดยปัจจุบันบริษัทมีรายได้หลักกว่า 70% มาจากประเทศ ซึ่งแน้วโน้มในอนาคตบริษัทจะมีรายได้จากตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากอุตสาหกรรมเอนเตอร์เทนเม้นท์ในต่างประเทศที่มีมูลค่ามหาศาลและศักยภาพเติบโตสูงตามอุตสาหกรรมโลก โดยตัวเลขรายได้ พื้นฐานของบริษัท เทียบกับตัวเลขพื้นฐานในตลาดโลกยังมีโอกาส เติบโตที่สูงมากแบบก้าวกระโดด

การร่วมมือกับบริษัทในประเทศจีนยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ YGG ที่ผลักดันขีดจำกัดของการสร้างสรรค์ จากการบูรณาการนวัฒตกรรม ทางเทคโนโลยี AI ประกอบกับการนำ Soft Power ของมรดก ทางวัฒนธรรมไทยมาสร้างสรรค์เป็นผลงานเข้าสู่ตลาดจีน และตลาดอื่นๆทั่วโลก

“เชื่อว่าความพยายามร่วมกันของทั้ง 2 บริษัท จะนำซึ่งผลลัพย์ที่ไม่ธรรมดา และอีกภารกิจของเรา คือการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมบันเทิงไร้ขีดจำกัด ผ่านความคิดสร้างสรรค์ทางเทคโนโลยี และสอดแทรกองค์ประกอบ ของวัฒนธรรมไทย-จีน เพื่อขยาย Soft Power ทำให้เกิดการเชื่อมต่อทางวัฒนธรรมกับทั้งจีน และระหว่างประเทศทั่วโลก”

สำหรับบริษัท เจ้อเจียงฮัวกั้วซาน คัลเจอร์ มีเดีย จำกัด เป็นบริษัทที่มีศักยภาพการเติบโตสูงของหางโจ และในปี 2566 ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสิบที่มีความคิดสร้างสรรค์ทางวัฒนธรรมยอดเยี่ยมของหางโจ ในปี 2567 ได้รับความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับแพลตฟอร์มหลักๆภายในประเทศ เช่น Tencent Video Light Media , Alibaba Pictures , BILIBILI นอกจากนี้ทางบริษัทยังมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ผลงาน เช่น White sneak2 , Nezha , Deep sae โดยกวาดรายรวมจาก China Box office มากกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาท

ที่มา:
https://www.efinancethai.com/LastestNews/LatestNewsMain.aspx?ref=A&id=cExnNkJlZnN5aXc9